วันอังคารที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2553

กุหลาบสีน้ำเงิน

"กุหลาบสีน้ำเงิน Blue Rose"

ความหมายของมันคือ การปฏิเสธ การบอกลา หรือการไม่สมหวัง
        เพราะมีเรื่องเล่า...

       เรื่องมีอยู่ว่า........

        นานมาแล้วมีชายหญิงคู่หนึ่ง      ทั้งสองรักกันมาก และก็กำลังจะแต่งงานกัน

      แต่ก่อนที่จะแต่งงาน ฝ่ายชายสัญญาว่า จะสร้างดอกกุหลาบที่มีสีน้ำเงินขึ้นมา

        ด้วยเหตุผลที่ว่าหญิงที่เค้ารักชอบดอกกุหลาบสีน้ำเงินที่สุด

        เค้าทั้งสองสัญญากันว่าเมื่อเค้าได้สร้างกุกลาบสีน้ำเงินได้เมื่อไหร่

      เค้าจะขอเธอแต่งงานอีกครั้งและจะมอบกุหลาบสีน้ำเงินเป็นของขวัญวันแต่งงาน

        ทายซิฝ่ายชายทำได้รึป่าว??

        คำตอบคือ แน่นอน ทำไม่ได้  ไม่งั้นคงไม่มีความหมายแบบนี้หรอก  - -*!!!

        แล้วเวลาก็ผ่านมาเรื่อยๆ จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี

  ที่หญิงสาวรอคอยคนรัก แต่การรอคอยก็สิ้นสุดลงเมื่อการสร้างกุหลาบนั่นไม่สำเร็จ

  เพราะถ้าสำเร็จคุณคงจะเห็นดอกกุหลาบสีน้ำเงินในปัจจุบันนี้

    แล้วคุณรู้มั้ยหญิงสาวผู้นั้นรอคอยชายที่ตนรัก  และตายไปอย่างโดดเดี่ยวในที่สุด

    ส่วนชายผู้นั้นเมื่อรู้ว่าหญิงที่เค้ารักตายไป        เค้าก็ตรอมใจและก็ตายตามหญิง

ที่เค้ารักไป

        จนผู้คนให้นิยามกับดอกกุหลาบสีน้ำเงินว่า

        "การรอคอยที่ไม่มีวันสิ้นสุด"

        อีกหนึ่งความหมายก็คือ

        " ความรักที่ไม่สมหวัง"

ความหมายเดิม =เป็นไปไม่ได้ (ก่อนนี้ไม่มีอยู่จริงตามธรรมชาติ) เป็นการปฏิเสธอย่างรุนแรง

ความหมายใหม่ = ดอกไม้แห่งความสมหวัง  ดอกไม้นำความสุข เช่นเดียวกับ

"นกสีน้ำเงิน" (หลังผลิตได้จากการพัฒนาทางวิศวพันธุกรรม)


กุหลาบพันธ์ใหม่.. "สีน้ำเงิน" ตัดต่อพัธุกรรมสำเร็จแล้ว


     ขึ้น ชื่อว่าดอกกุหลาบต้องมีกลีบสีแดงใช่ไหม? คนญี่ปุ่นบอกว่า ไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว บริษัทแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นได้ใช้เทคนิคตัดต่อพันธุกรรม สร้างกุหลาบสีน้ำเงินเป็นผลสำเร็จ ในปีหน้าจะเริ่มมีขายทั่วไป

เอกชนรายนี้ก็คือ  ซันทอรี ผู้ผลิตสุรารายใหญ่ โฆษกของบริษัทบอกว่า ทางบริษัทคาดว่าจะขายกุหลาบน้ำเงินได้ปีละหลายหมื่นดอก

โฆษก คาซูมาซา นิชิซากิ บอกว่า ราคาของมันจะค่อนข้างแพง ฉะนั้น ทางบริษัทจะจับกลุ่มลูกค้าระดับบนที่ต้องการซื้อเป็นของขวัญ แต่จะขายราคาเท่าไหร่ และจะมีชื่อการค้าว่าอย่างไร ทางบริษัทยังไม่ได้กำหนด

ซันทอรี ยังได้ไปทดลองปลูกกุหลาบน้ำเงินนี้ในออสเตรเลียและสหรัฐด้วย  เพื่อขออนุญาตออกวางจำหน่ายในอนาคต แต่ยังไม่ได้กำหนดวันเปิดตัวในประเทศทั้งสอง

บริษัท นี้ได้แถลงเปิดตัวกุหลาบสีน้ำเงินมาตั้งแต่ปี  2547  หลังจากศึกษาวิจัยมานาน 14 ปี โดยมีนักวิจัยของออสเตรเลียเข้าร่วมโครงการด้วย ซันทอรีได้สร้างกุหลาบแบบนี้ขึ้นด้วยการปลูกถ่ายสารพันธุกรรมชนิดหนึ่ง ซึ่งทำให้เกิดการสังเคราะห์เม็ดสีสีน้ำเงินขึ้น ซึ่งเม็ดสีที่เรียกว่าเดลฟีนิดีนนี้ ไม่ได้มีในกุหลาบตามธรรมชาติ.





วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ประโยชน์ของกล้วย

 ประโยชน์ของกล้วย
กล้วยอุดมด้วยน้ำตาลธรรมชาติ 3 ชนิด คือ ซูโครส ฟรุคโทส และ กลูโคส รวมกับเส้นใยและกากอาหาร กล้วยจะช่วยเสริมเพิ่มพลังงานให้กับร่างกายทันทีทันใด จากงานวิจัยพบว่ากินกล้วยแค่ 2 ผล ก็สามารถเพิ่มพลังงานให้อย่างเพียงพอ กับการออกกำลังกายอย่างเต็มที่ได้นานถึง 90 นาที

         ประโยชน์ของกล้วยไม่ใช่เพียงแค่เพิ่มพลังงานเท่านั้น ยังช่วยเอาชนะ และป้องกันโรคต่างๆ ที่จะเกิดกับร่างกายได้อีกหลายโรคเลยค่ะ ส่วนจะช่วยป้องกันโรคใดได้บ้างนั้นราไปหาข้อมูลมาให้แล้ว ดังนี้

          1. โรคโลหิตจาง ในกล้วยมีธาตุเหล็กสูงจะเป็นตัวช่วยกระตุ้นการผลิตฮีโมโกลบินในเลือด และจะช่วยในกรณีที่มีสภาวะขาดกำลัง หรือภาวะโลหิตจาง
          2. โรคความดันโลหิตสูง มีธาตุโปรแตสเซียมสูงสุด แต่มีปริมาณเกลือต่ำ ทำให้เป็นอาหารที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่จะช่วยความดันโลหิตมาก อย.ของอเมริกา ยินยอมให้อุตสาหกรรมการปลูกกล้วยสามารถ โฆษณาได้ว่า กล้วยเป็นผลไม้พิเศษช่วยลดอันตรายอันเกิดจากเรื่องความดันโลหิตหรือโรคเส้น เลือดฝอยแตก
          3. กำลังสมอง มีงานวิจัยในกลุ่มนักเรียน 200 คน โรงเรียน Twickenham พบว่ากินกล้วยมื้ออาหารเช้า ตอนพัก และมื้ออาหารกลางวันทุกวัน เพื่อช่วยส่งเสริมกำลังของสมองในพวกเขา  ได้รับผลดีจากการสอบตลอดปี ด้วยการจากงานวิจัยแสดงให้เห็นว่าปริมาณโปรแตสเซียมที่มีอยู่เต็มเปี่ยมใน กล้วยสามารถให้นักเรียนมีการตื่นตัวในการเรียนมากขึ้น
          4. โรคท้องผูก ปริมาณเส้นใยและกากอาหารที่มีอยู่ในกล้วยช่วยให้การขับถ่ายเป็นปกติ และยังช่วยแก้ปัญหาโรคท้องผูกโดยไม่ต้องกินยาถ่ายเลย

          5. โรคความซึมเศร้า จากการสำรวจ ในจำนวนผู้ที่มีความทุกข์เกิดจากความซึมเศร้าหลายคนจะมี ความรู้สึกที่ดีขึ้นมากหลังการกินกล้วย เพราะมีโปรตีนชนิดที่เรียกว่า Try Potophan เมื่อสารนี้เข้าไปในร่างกายจะ ถูกเปลี่ยนเป็น Rerotonin เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นตัวผ่อนคลายปรับปรุงอารมณ์ให้ดีขึ้นได้ คือทำให้เรารู้สึกมีความสุขเพิ่มขึ้นนั่นเอง

          6. อาการเมาค้าง วิธีที่เร็วที่สุดที่จะแก้อาการเมาค้าง คือ การดื่มกล้วยปั่นกับนมและน้ำผึ้ง กล้วยจะทำให้ กระเพาะของเราสงบลง ส่วนน้ำผึ้งจะเป็นตัวช่วยหนุนเสริมปริมาณน้ำตาลในเส้นเลือดที่หมดไปในขณะที่ นมก็ช่วย ปรับระดับของเหลวในร่างกายของเรา
          7. อาการเสียดท้อง กล้วยมีสารลดกรดตามธรรมชาติที่มีผลต่อร่างกายของเรา ถ้าปัญหาเกี่ยวกับอาการเสียด ท้อง ลองกินกล้วยสักผล คุณจะรู้สึกผ่อนคลายจากอาการเสียดท้องได้

          8. ความรู้สึกไม่สบายในตอนเช้า การกินกล้วยเป็นอาหารว่างระหว่างมื้ออาหาร จะรักษาระดับน้ำตาลในเส้นเลือดให้คงที่ เพื่อหลีกเลี่ยงความรู้สึกไม่สบายในตอนเช้า


          9. ยุงกัด ก่อนใช้ครีมทาแก้ยุงกัด ลองใช้ด้านในของเปลือกกล้วยทาบริเวณที่ถูกยุงกัด มีหลายคนพบอย่างมหัศจรรย์ว่า เปลือกกล้วยสามารถแก้เม็ดผื่นคันที่เกิดจากยุงกัดได้

          10. ระบบประสาท วิธีควบคุมปริมาณน้ำตาลในเส้นเลือด ด้วยการกินอาหารว่างที่มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตสูงอย่างทุก 2 ชั่วโมง เพื่อรักษาปริมาณน้ำตาลให้คงที่ตลอดเวลา การกินกล้วยที่มีวิตามินบี 6 ซึ่งประกอบด้วยสารควบคุมระดับกลูโคสที่สามารถมีผลต่ออารมณ์ ช่วยทำให้ระบบประสาทสงบลงได้
          11. โรคลำไส้เป็นแผล กล้วยเป็นอาหารที่แพทย์ใช้ควบคุม เพื่อต้านทานการเกิดโรคลำไส้เป็นแผล เพราะเนื้อของกล้วยมีความอ่อนนิ่มพอดี เป็นผลไม้ชนิดเดียวที่ทานได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยากสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องโรคลำไส้เรื้อรัง และกล้วยยังมีสภาพเป็นกลางไม่เป็นกรด ทำให้ลดการระคายเคือง และยังไปเคลือบผนังลำไส้และกระเพาะอาหารด้วย


          12. การควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย ในวัฒนธรรมของหลายแห่งเห็นว่ากล้วย คือผลไม้ที่สามารถทำให้ อุณหภูมิเย็นลงได้ทั้งทางร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะอุณหภูมิของอารมณ์ของคนที่เป็นแม่ที่ชอบคาดหวัง ตัวอย่างในประเทศไทย จะให้ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์รับประทานกล้วยทุกวันเพื่อให้แน่ใจว่า ทารกที่เกิดมา จะมีอุณหภูมิเย็น

          13. ความสับสนของอารมณ์เป็นครั้งคราว กล้วยสามารถช่วยในเรื่องของอารมณ์และความสับสนได้ เพราะในกล้วยมีสารตามธรรมชาติ Try Potophan ทำให้อารมณ์ดี

          14. การสูบบุหรี่ กล้วยสามารถช่วยคนที่กำลังพยายามเลิกสูบบุหรี่ เนื่องจากในกล้วยมีปริมาณของวิตามินซี เอ บี6 และบี 12 ที่สูงมาก และยังมีโปรแตสเซียมกับแมกนีเซียม ที่ช่วยทำให้ร่างกายฟื้นคืนตัวได้เร็วอันเป็นผล จากการลดเลิกนิโคตินนั่นเอง

          15. ความเครียด โปรแตสเซียม เป็นสารอาหารสำคัญ ที่ช่วยให้การเต้นของหัวใจเป็นปกติ การส่งออกซิเจน ไปยังสมอง และปรับระดับน้ำในร่างกาย เวลาเกิดอารมณ์เครียด อัตรา metabolic ในร่างกายของเราจะขึ้นสูง และทำให้ระดับโปรแตสเซียมในร่างกายของเราลดลง แต่โปรแตสเซียมที่มีอยู่สูงมากในกล้วยจะช่วยให้เกิด ความสมดุล

          16. เส้นเลือดฝอยแตก จากการวิจัยที่ลงในวารสาร "The New England Journal of Medicine" การกินกล้วยเป็นประจำสามารถลดอันตรายที่เกิดกับเส้นโลหิตแตกได้ถึง 40%

          17. โรคหูด การรักษาหูดด้วยวิธีทางเลือกแบบธรรมชาติ โดยการใช้เปลือกของกล้วยวางปิดลงไปบนหูด แล้วใช้แผ่นปิดแผลหรือเทปติดไว้ให้ด้านสีเหลืองของเปลือกกล้วยออกด้านนอก ก็จะสามารถรักษาโรคหูดให้หายได้

การทำโดนัดเค้ก

การทำโดนัดเค้ก

อาชีพอิสระวันนี้ workdeena ขอเสนอการทำขนมมีรู นั้นก็คือ "โดนัท" ซึ่งเป็นขนมที่ทั่วโลกรู้จัก และนิยมทานกัน ในบ้านเราก็มีรายใหญ่ ร้านดังมีชื่อเสียงมาจากต่างประเทศ เปิดให้บริการกันหลายร้าน จนบางคนลืม โดนัทแบบบ้านๆ ไปเลย นั้นคือ โดนัสโรยน้ำตาล แบบธรรมดา แต่เพื่อนๆ รู้ไหมว่า กำไรไม่ธรรมดาเลย เพื่อนๆ สามารถทำส่งร้านขายขนมส่งได้ หรือจะตั้งร้านขายเองที่ตลาดก็สามารถทำได้


workdeena อยากให้เพื่อนได้ทราบก็ว่า โดนัทมีอยู่ 2 ประเภท คือ โดนัทยีสต์ และโดนัทเค้ก

- โดนัทยีสต์นั้น จะใช้ยีสต์เป็นส่วนประกอบในการหมักแป้งให้ขึ้นฟู

- โดนัทเค้ก จะใช้ผงฟูในการหมักแป้งให้ขึ้นฟู

ดังนั้นรสชาติจะต่างกัน และเนื้อของโดนัท ก็ต่างกันด้วย แต่วันนี้ workdeena จะบอกวิธีการทำ โดนัสเค้ก แบบที่ร้านใหญ่ๆ เข้าทำขายกัน

โดนัทเค้ก :
ส่วนผสม
  1. แป้งสาลี 1 กิโล
  2. เนยละลาย 1/2 ถ้วยตวง
  3. ไข่ไก่ 2 ฟอง
  4. ผง ฟู 3 ช้อนชา
  5. น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง

วิธีทำ
  • ให้ นำแป้งสาลีผสมกับผงฟู ร่อนรวมกันแล้วพักไว้
  • แล้วให้ตีน้ำตาลทรายกับ ไข่ขาว(เอาเฉพาะไข่ขาวนะ) ให้ขึ้นฟู
  • เมื่อน้ำตาลกับไข่ขาว ขึ้นฟูดีแล้วให้นำแป้งและเนยละลาย เทสลับกัน แล้วตีให้เข้ากัน
  • เสร็จ แล้ว ให้นำแป้งมาวางบนโต๊ะ แล้วคลึงและรีดให้เป็นแผ่น ให้หนาพอสมควร
  • หลัง จากนั้น ก็ใช้พิมพ์กดให้เป็นวง แล้วลงทอดในน้ำมัน ใช้ไฟปานกลาง ให้เหลือง

ส่วน หน้าตา หรือน้ำตาลสีต่างๆ ที่ใช้ราดบน โดนัท ก็แล้วแต่เพื่อนๆ ชอบ แต่ workdeena ขอแค่คลุก น้ำตาลทรายเพียงอย่างเดียว ก็อร่อยแล้ว

ประวัติตุ๊กตาบาย

                                                   ประวัติตุ๊กตาบาย
ตาโต หน้ากลม ขนตางอนงาม ปากนิด จมูกหน่อย อะๆ อย่าเพิ่งคิดไปไกล เรากำลังบรรยารูปร่างหน้าตาของ "Blythe" แหม...งงล่ะสิว่า "Blythe" คืออะไร งั้นเฉลยค่ะ "Blythe" คือตุ๊กตาสาวน้อยแสนสวยที่กำลังอินเทรนด์ในหมู่วัยรุ่น (คล้ายๆ ตุ๊กตาบาร์บี้) ทั้งที่ความจริงแล้วสาว Blythe เข้ามาสร้างความสดใสให้สาวๆ ตั้งแต่ 30 ปีที่แล้ว เชื่อว่าถ้าเห็นหลายคนคงร้องอ๋อ เพราะคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี แต่ก็มีอีกหลายคนอยากรู้ว่าสาว Blythe จะน่ารักขนาดไหน และมีคุณสมบัติพิเศษอะไรทำไม๊...ทำไมถึงฮิตฮอตซะขนาดนั้น ถ้างั้นก็อย่าช้าตามเข้ามาหาคำตอบกันเลย...

          Blythe อ่านออกเสียงว่า Blahyth หรือ Blind (บลายธ์) เธอคือตุ๊กตาวินเทจเจ้าเสน่ห์ที่ถูกออกแบบให้ถือกำเนิดขึ้นในปี 2515 (ค.ศ. 1972) โดยโรงงานผลิตของเล่นในสหรัฐอเมริกา นามว่า เค็นเนอร์ (Kenner) ภายใต้ concept ที่อยากสร้างเอกลักษณ์ความแตกต่างให้เกิดขึ้นกับตุ๊กตา และหลังจากนั้น Kenner ได้ว่าจ้างดีไซเนอร์นักออกแบบของเล่นอย่าง Allison Katzman จาก Marvin Glass & Associates หนึ่งในสตูดิโอออกแบบของเล่นชื่อดังที่สุดในโลก ให้ดีไซน์ปลุกปั้นตุ๊กตา Blythe ฉบับออริจินัลขึ้น 


          โดย Allison Katzman ได้หยิบเอาดวงตาที่ตั้งใจจะใช้กับตุ๊กตาสุนัขมาใส่ในตัว Blythe ส่วนลำตัวแรกๆ ก็มีขนาดได้สัดส่วนกับหัวที่มีขนาดใหญ่ แต่ปรากฏว่ากล่องใส่มีขนาดสั้น จึงต้องลดสัดส่วนความยาวลำตัวให้บรรจุได้พอดี ตุ๊กตาบลายธ์จึงหัวโตตัวสั้น ดูเหมือนการ์ตูน แล้วนับแต่นั้นมา เด็กๆ ทั้งหลายก็ได้รู้จักกับของเล่นชิ้นใหม่ชิ้นนี้

          ซึ่งสาว Blythe ปรากฎตัวครั้งแรกพร้อมกับทรงผมยอดฮิตในยุค 70s ซึ่งมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี 4 แบบ พร้อมด้วยแฟชั่นเครื่องแต่งกายสไตล์วินเทจที่มีให้ Mix & Match กว่า 12 ชุด โมเดลตุ๊กตาทั้ง 4 แบบ ชื่อ Blythe, Karess, Willow และ Skye จึงถูกคิดค้นขึ้นมา แต่ด้วยความที่อยากให้ตุ๊กตา Blythe ล้ำยุค และมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร รูปลักษณ์ภายนอกของสาวบลายธ์จึงถูกออกแบบขึ้นมาอย่างโดนเด่น หัวโต ตัวผอม ความสูง 11.5 นิ้ว มีดวงตากลมโตเท่าไข่ห่านที่หลับได้เปิดได้ แถมเวลาเปิดเปลือกตาแต่ละครั้ง เธอสามารถเปลี่ยนสีดวงตาได้ถึง 4 สี คือ เขียว ชมพู ส้ม และน้ำเงิน 

          เพียงแค่ดึงห่วงที่อยู่หลังศีรษะ และ Blythe สามารถบิดเอวและเข่าได้ เพื่อให้เปลี่ยนชุดได้ง่ายและสามารถโพสต์ท่าเหมือนนางแบบ ทำให้กลับกลายเป็นว่าเด็กๆ ต่างพากันหวาดกลัวตุ๊กตาตัวแรกของโลก ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ Blythe ไม่เป็นที่นิยม จนมีเหตุให้ต้องปิดตัวลงหลังจากที่ออกวางขายในตลาดได้แค่เพียง 1 ปีเท่านั้น

          จาก นั้นในปี 2545 (ค.ศ. 2002) หรือ 30 ปี ต่อมาสาว Blythe ก็กลับมาได้รับความนิยมในหมู่นักสะสมอีกครั้ง เพราะหลังจากที่ Gina Garan (โปรดิวเซอร์สาวชาวอเมริกัน ) ได้รับตุ๊กตา Blythe เป็นของขวัญ ทำให้เธอตกหลุมรักมันพร้อมๆ กับถ่ายภาพเธอ Blythe เก็บไว้กว่า 100 รูป จนถูกตีพิมพ์เป็นหนังสือรวมภาพถ่ายชื่อ "This is Blythe" รวมถึงหนังสือ Firecracker Alternative Book ที่ขายได้กว่า 100,000 และจัดนิทรรศการแสดงภาพถ่าย ที่ทำให้ชื่อของ Gina's Gallery โด่งดังไปทั่วโลก


          หลังจากที่ Hasbro (ผู้สืบทอดกิจการจาก Kenner) ได้มอบลิขสิทธิ์การผลิตตุ๊กตาให้กับบริษัท Takara ประเทศญี่ปุ่น Blythe ก็เริ่มเป็นที่รู้จักของคนญี่ปุ่น จากการเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณา TV ให้กับห้างสรรพสินค้าชื่อดังอย่าง Parco และเพียงชั่วข้ามคืนมันก็กลายเป็นตุ๊กตายอดนิยม ส่งผลให้ราคาประมูล Blythe ดีดตัวพุ่งสูงขึ้นจากเดิม $35 เป็น $350 ทันที 

          และในปี 2001 Takara ได้รับหน้าที่แปลงโฉม Blythe ให้ดูโดนเด่นขึ้นด้วยขนาดตัว 11 นิ้ว พร้อมกับชื่อใหม่ว่า "Neo Blythe" และนับแต่นั้นมา ก็มีคอลเลกชั่นต่างๆ ของ Neo Blythes (นีโอ บลายธ์) เกิดขึ้นมากมายกว่า 37 แบบ ไม่ว่าจะเป็น Blythe ตัวแรก Parco Limited Edition (1,000 ตัว) ตามมาด้วยคอลเลกชั่น Mondrian, Rosie Red, Holly Wood, All Gold in One, Kozy Kape inspired, Aztec Arrival inspired, Sunday Best และ Miss Anniversary Blythe ซึ่งเป็นคอลเลกชั่นพิเศษ ที่ทำขึ้นเพื่อเป็นการฉลองวันเกิด ครบรอบ 1 ปี ของ Neo Blythes 


          และยังมีเซอร์ไพรสให้กับ์เหล่านักสะสมตุ๊กตาทั้งหลายด้วยการเปิดตัว Blythe สายพันธ์ใหม่นามว่า "Petite Blythe" (พีทิต บลายธ์) ด้วยขนาดตัวที่เล็กกะทัดรัดเพียง 4.5 นิ้ว แม้ว่าจะมีสีตาให้เลือกเพียงสีเดียว แต่มันสามารถขยับเปลือกตาขึ้น-ลงได้พร้อมๆ กับการดัดบอดี้ส่วนต่างๆ ให้ดูมีการเคลื่อนไหวเพิ่มมากขึ้น และมีออกมาทั้งหมด 48 แบบ 


          ซึ่งคอลเลกชั่นนี้ถือว่าโดดเด่น และได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ Perfect Petite Series Blythe Dolls ที่ประกอบไปด้วย Asian Butterfly, Paisley Star และ Cosmo Afternoon ปิดท้ายด้วยการเปิดตัว Blythe Belle ตุ๊กตาพีวีซีที่จำลอง และย่อส่วนขนาดของ Blythe ให้เหลือเพียงแค่ 3 นิ้วเท่านั้น

ประวัติหมีพูห์

                                                   ประวัติหมีพูห์

หมีพูห์ หรือ วินนี-เดอะ-พูห์ ( Winnie-the-Pooh) เป็นตัวละครหมีที่สร้างขึ้นโดย เอ. เอ. มิลน์ และตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ 14 ตุลาคมค.ศ. 1926 ในหนังสือเรื่อง วินนี-เดอะ-พูห์ และ เดอะเฮาส์แอตพูห์คอร์เนอร์ (1928)
เนื้อเรื่องในหนังสือมีลักษณะคล้ายกับ ป่าแอชดาวน์ ในเมือง อีสต์ซัซเซก ในประเทศอังกฤษ โดยชื่อ วินนี มาจากชื่อตุ๊กตาหมีของทหารชาวแคนาดานายหนึ่ง ซึ่งตั้งตามชื่อเมือง วินนีเพก ในประเทศแคนาดา
นอกจากหมีพูห์แล้วเพื่อนในป่าที่ได้รับความนิยมได้แก่ พิกเลต ทิกเกอร์ และ อียอร์
ต่อมา วอลต์ดิสนีย์ ได้นำวินนี-เดอะ-พูห์ มาจัดทำและได้เปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น Winnie the Pooh (โดยไม่มีเครื่องหมายขีด) และหมีพูห์ได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของดิสนีย์
หมีที่ชื่อว่า วินนี่ เดอะ พูห์ เป็นผลงานสร้างสรรค์ของเอ.เอ.ไมลน์ ( A.A.Miline) นักเขียนชาวอังกฤษ มีชื่อเต็มว่า อลัน อเล็กซานเดอร์ ไมลน์
ตำนานของหมีพูห์เริ่มจากการที่ทหารกองทัพแคนาดาได้นำหมีน้อยตัวหนึ่ง ชื่อว่า วินนี่ เพ็ก แก่ประเทศอังกฤษ เพื่อให้เป็นสัญลักษณ์ของการร่วมรบกันระหว่างกองทัพแคนาดาและอังกฤษในสมัย สงครามโลกครั้งที่ 1 ( ค.ศ.1914-1918)
หมีน้อยตัวนี้ได้ไปอยู่ที่สวนสัตว์กรุงลอนดอน ในปี 1919 ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของชาวลอนดอนมาก รวมถึงหนูน้อยคริสโตเฟอร์ โรบิน ลูกชายของนักเขียนชื่อเอ.เอ.ไมล์น
หนูน้อยคริสโตเฟอร์นำชื่อวินนี่ เพ็ก ไปตั้งชื่อตุ๊กตาหมีตัวโปรดว่า วินนี่ เดอะ พูห์ โดยคำว่า “ พูห์” (Pooh) เป็นชื่อของหงส์ในกวีบทหนึ่งต่อมาเอ.เอ.ไมลน์ จึงเริ่มเขียนเรื่องราวของวินนี่ เดอะ พูห์ และเพื่อนพ้องของมัน โดยหนังสือวางจำหน่ายเมื่อปีค.ศ.1926 หรือ 74 ปีที่แล้วกระทั่งปี 1996 ที่ผ่านมา ยอดขายหนังสือสูงถึง 20 ล้านเล่ม แปลเป็นภาษาต่างๆมากกว่า 25 ภาษา ในขณะเดียวกันวอลต์ ดิสนีย์ ซื้อลิขสิทธิ์หมีพูห์และนำไปสร้างการ์ตูนบนแผ่นฟิล์มในปี 1996 พร้อมกับผลิตภัณฑ์มากมายก่ายกอง ทำให้หมีพูห์เป็นตัวการ์ตูนยอดนิยมอันดับ 2 ของเด็กอเมริกันรองจากมิกกี้ เม้าส์
หมีพูห์รู้ดีว่าเขาต้องการอะไรเมื่อ “ ท้องเริ่มส่งเสียงร้อง” นั่นคือ น้ำผึ้งไง!
อืม... แต่จะทำอย่างไรหากเขาพบเพียงโถเปล่าที่มีน้ำผึ้งเหนียว ๆ
ติดอยู่เพียงนิดเดียวเท่านั้น
“ งั้นเราก็ต้องช่วยจัดการให้โถเกลี้ยงเร็ว ๆ หน่ะสิ” เจ้าหมีสมองเล็ก (แต่บางครั้งก็ฉลาดล้ำลึก)
ตัวนี้อาจพยายามหลอกเจ้าผึ้งขี้สงสัยว่ าตัวเขาคือเมฆฝนสีดำก้อนใหญ่ หรือถ้าคิดอีกที
การแวะไปบ้านกระต่ายเพื่อหาขนมหวานทานดูจะเป็นเรื่องง่ายกว่า ( และเจ็บตัวน้อยกว่าด้วย)
แต่ไม่ว่าพูห์จะเลือกทำอะไรก็มักจะมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นเสมอ เช่น ติดอยู่ในรูกระต่าย
แคบ ๆ และไม่สามารถขยับเขยื้อนตัวออกมาได้ เป็นต้น แต่ก็นั่นแหล่ะ เขามักจะหาทางออกได้เสมอ
เพราะแม้สมองของเขาจะเต็มไปด้วยนุ่น แต่เพื่อนรักของคริสโตเฟอร์ โรบิน
หรือที่ใคร ๆ เรียกว่าเจ้าหมีแก่จอมงี่เง่าตัวนี้มีจิตใจที่งดงาม
ในชีวิตจริง วินนี่ย์เดอะพูห์ ( หรือที่รู้จักกันในชื่อ เอ็ดเวิร์ดแบร์ ในช่วงแรกเมื่อเขาปรากฏตัวใน
‘When We Were Very Young’ คือ ของเล่นสุดรักสุดหวงของคริสโตเฟอร์ มิลล์
( ลูกชายของเอ. เอ. มิลล์) ซึ่งได้รับเจ้าหมีน้อยตัวนี้เป็นของขวัญครบรอบหนึ่งขวบของเขาใน
ปี 1921
ปัจจุบัน วินนี่ย์เดอะพูห์ถูกจัดแสดงให้แฟน ๆ ของการ์ตูนเรื่องดังกล่าวได้ชมกันที่ Children’s
Reading Room ใน New York Public Library บนถนน West 53rd Street
ผู้ให้เสียงสำหรับตัวการ์ตูนตัวนี้ คือ สเตอร์ลิง ฮอลโลเวย์ ซึ่งเป็นนักแสดงชื่อดังและนักพากย์ที่สตูดิโอดิสนี่ย์
ภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องวินนี่ย์เดอะพูห์
ภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องแรกของทางสตูดิโอที่นำวรรณกรรมเยาวชนอันแสนน่ารักของ เอ. เอ. มิลล์
ถ่ายทอดสู่แผ่นฟิล์ม วินนี่ย์เดอะพูห์และผองเพื่อน , คริสโตเฟอร์ โรบิน, เจ้าลาอีออร์,
นกฮูก, แคงก้า และเบบี้รู รวมถึงกระต่ายและโกเฟอร์ ต้องเผชิญกับฝูงผึ้งและรังน้ำผึ้ง
อันแสนหอมหวาน มีการดัดแปลงเรื่องราวดั้งเดิมของเจ้าหมีเท็ดดี้แบร์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ไปทั่วโลกตัวน
ี้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดที่สุดคือการเพิ่มตัวละครใหม่ นั่นคือ โกเฟอร์
นี่คือภาพยนตร์การ์ตูนพิเศษขนาดสั้นกำกับโดย วูลฟแกงค์ ไรเดอร์แมน
ทีมพากย์เสียงโดย สเตอร์ลิง ฮอลโลเวย์ ( พูห์) , บรูซ ไรเดอร์แมน (คริสโตเฟอร์ โรบิน),
ราล์ฟ ไรต์ (อีออร์), โฮวาร์ด มอร์ริส (โกเฟอร์), บาบาร่า ลัดดี้ (แคงก้า), ฮัล สมิธ (นกฮูก),
จูเนียส แมธธิวส์ (กระต่าย) และคลินต์ โฮวาร์ด (รู)
ความยาว 26 นาที เซบาสเตียน เคบอตต์ ผู้ดำเนินเรื่อง และเพลงประกอบภาพยนตร์โดย
ริชาร์ด เอ็ม. และ โรเบิร์ต บี. เชอร์แมน
สเตอร์ลิง ฮอลโลเวย์ได้รับคำชมเชยอย่างมากจากการพากย์เสียงเป็นพูห์และเป็นส่วนหนึ่ง
ที่ทำให้หนัง
ประสบความสำเร็จ เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดภาคต่ออีก 3 ตอน รวมถึงการนำตอนต่อทั้งหมดออกฉายรวมกันด้วย

วันพฤหัสบดีที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2553

                                 เรื่องย่อละครสาวใช้ไฮเทค
นล...หนุ่ม หล่อผู้อกหัก พลาดรักแล้วพาลเกลียดผู้หญิงทุกคน เขากลายเป็นคนเงียบขรึมเก็บตัว สาวสวยมากหน้าหลายตาผ่านมาให้เลือก แต่เขาก็เมินเฉย เสียจนน่าเป็นห่วง ปฏิบัติการ 'สาวใช้ไฮเทค' จึงเกิดขึ้น เมื่อน้องสาวแสนดีวางแผนกับเพื่อนรักคิดแผนรักที่จะทำให้นลกลับมามีความสุข สดชื่นได้อีกครั้งสาวใช้ไฮเทค

ละคร สาวใช้ไฮเทคเรือง ริน...คนงาม ผู้ร่าเริงแจ่มใส สาวน้อยที่มีชีวิตแสนสนุกต้องปลอมเป็นสาวใช้ไปใกล้ชิดกับชายหนุ่มสุดเท่ห์ เพื่อช่วยให้เขากลับมีชีวิตชีวาขึ้นมา และต้องคอยเป็นแม่สื่อหาผู้หญิงที่เหมาะสมให้กับนล แม้ปฏิบัติการนี้จะดำเนินไปอย่างราบรื่น และแสนสนุก แต่จะเร็จหรือไม่...ต้องติดตามอ่านและร่วมลุ้นไปความรักที่แสนจะอลเวงนี้กัน ได้ในเล่ม





เรื่องย่อละคร สาวใช้ไฮเทค
นล รัศมีมาน (อรคพันธ์ นะมาตร์) ถูก รมณี (เปรมสินี รัตนโสภา)  ว่าที่เจ้าสาวทิ้งไปกลางงานวิวาห์ โดยที่นลไม่รู้เลยว่าตลอดเวลาที่คบหาเป็นแฟนกับรมณีมาตลอด 10 ปี ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันนั้น รมณีแอบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ ศักดิ์ชัย (ธัญวิสิฎฐ์ เสียงหวาน) เพื่อนรักของเขาเอง และทั้งคู่ก็หนีไปด้วยกันในคืนวันแต่งงานของเขา รมณีทำทุกอย่างเพราะรักศักดิ์ชัยอย่างจริงใจ ทั้งสองหายตัวเงียบไปไม่ได้ข่าวคราว ทิ้งให้นลต้องทุกข์ระทม และค้างคาในใจ ที่เจ้าสาวหายตัวไปโดยที่ตนไม่ทราบสาเหตุ ทิ้งเพียงโน้ตสั้นๆ ที่กล่าวลา บอกให้รู้ว่าเธอไม่ได้เป็นอันตราย หรือโดนลักพาตัว แต่เลือกที่จะทิ้งเขาไปไม่ใยดี

สามเดือนต่อมา คุณกนกวรรณ (ดารัณ ฐิตะกวิน) แม่ของนล แสนจะกลัดกลุ้มกับสภาพของนล ที่แทบไม่เป็นผู้เป็นคน ปล่อยเนื้อปล่อยตัว หนวดเคราไม่โกน เอาแต่เมา ไม่ยอมพบเจอผู้คน บางคราวก็อาละวาดฉุนเฉียว นายเป็ด (ปราบ ยุทธพิชัย ) คนขับรถเก่าแก่ที่เป็นคนรับใช้คนสนิทก็ยังเข้าไม่ติด กระทั่ง นิยา (เอมี่ กลิ่นปทุม) น้อง สาวแท้ๆ ของนลก็ยังไม่สามารถช่วยนลได้ และสำคัญก็คือกิจการของห้างสรรพสินค้ากลางกรุง ‘ดรากอน มอลล์’ ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่รุ่นคุณยายซึ่งนลได้รับมอบหมายให้ดูแลมาหลายปีก็ถูกน ลละเลยจนผลประกอบการช่วงไตรมาสที่ผ่านมาตกต่ำติดดิน กนกวรรณปรึกษากับ คุณยายชื่น (ดร.ปัทมาฆะ สุคนธมาน) ผู้เป็นแม่ของตนให้ทำอะไรซักอย่างก่อนที่นลจะแย่ไปกว่านี้ และก่อนที่กิจการห้างจะต้องถึงกับปิดตัว แต่ก็โดนคุณยายชื่นเอ็ดเอาว่าเป็นแม่ประสาอะไร ถ้าดูแลลูกชายไม่ได้ ก็หาคนอื่นมาดูแลซะ แต่กนกวรรณจนปัญญา ถึงกับเข้าหา อาจารย์คงเดช (สมชาย ศักดิกุล) หมอดูชื่อดังที่ร่ำรวยกับการดูดวงในแวดวงเศรษฐีไฮโซ นั่นทำให้คุณยายชื่นรู้สึกขัดใจ และหมดหวังกับการแก้ปัญหาอย่างงมงายของกนกวรรณ หนำซ้ำ อาจารย์คงที่ดูเหมือนจะจีบกนกวรรณเพราะหวังสมบัติ ยังพยายามจะยัดเยียด กิ่งกานต์ (ฐิตินันท์ สุวรรณถาวร) ลูกสาวสุดเปรี้ยว อารมณ์เหวี่ยง ให้มาดูแลนล แต่ลับหลังนล กิ่งกานต์ก็แสดงกริยาแย่ๆ ให้คุณยายชื่นจับได้ว่ากิ่งกานต์ไม่ได้คิดจริงใจกับนลในสภาพย่ำแย่นั้น คุณยายชื่นถึงกับเปรยกับ ป้าบัว สาวใช้เก่าแก่ประจำบ้านว่าตนจะต้องทำอะไรซักอย่างแล้ว

ละคร สาวใช้ไฮเทค

คืนนั้น คุณยายชื่น ต้องไปเป็นประธานงานการกุศลหาเงินก่อตั้งกองทุนสวัสดิภาพผู้ใช้แรงงาน โดยมีนิยาตามมาดูแล งานนั้นจัดแบบตั้งโต๊ะแถลงข่าวเล็กๆ ในห้องโรงแรม เรืองริน (วรัทยา นิลคูหา) เจ้าหน้าที่ฝ่ายให้คำปรึกษาเปลี่ยนชุดราตรีสวยเป็นชุดคนใช้ เพื่อให้เข้ากับคอนเสปท์ที่ช่วยเหลือเรื่องสวัสดิภาพแก่ลูกจ้างที่ไม่มี ประกันสังคม ในงานนอกจากเจ้าหน้าที่จะแต่งตัวเป็นวินมอร์เตอร์ไซค์ สาวใช้ และแม่ค้าแล้วยังมีสื่อมวลชนสำนักต่างๆ ให้ความสนใจร่วมทำข่าวด้วย นิยาแทบช็อกเมื่อพบว่าสาวในชุดคนใช้ปอนๆ ผมเผ้าไม่เซ็ทเป็นทรงคนนี้คือ ริน สองสาวคุยกันขโมงโดยมีคุณยายชื่นฟังอยู่อย่างสนใจว่ารินเป็นเพื่อนซี้กับนิ ยาตั้งแต่สมัยมัธยมที่ไม่ได้เจอกันนาน เพราะรินไปเรียนมหาวิทยาลัยที่เชียงใหม่จนจบมาทางด้านจิตวิทยาและทำงานอาสาฯ ช่วยเหลือให้คำปรึกษาผู้ประสบปัญหาล้มเหลวในชีวิต คุณยายชื่นฟังรินกับนิคุยกันไปพลางลอบมองลุคสาวใช้ของรินจนปิ๊งไอเดีย จินตนาการไปว่า เรืองรินนี่ละที่จะช่วยเหลือนลได้ จึงรีบทาบทามว่าจ้างให้เรืองรินปลอมเป็นคนใช้เพื่อดูแลนลในทุกๆ ทางให้กลับมาเป็นผู้เป็นคนเสียที โดยเรื่องนี้ต้องปิดเป็นความลับ มีรู้กันเพียงแค่คุณยายชื่น นิยา และเรืองริน ห้ามแพร่งพรายไปแล้วถึงหูนลโดยเด็ดขาด เพราะจะกลายเป็นยิ่งทำให้นลโกรธเคือง และทุกอย่างจะพาลแย่ลง แต่เรืองรินไม่ได้อยากรับภารกิจนี้

จนกระทั่งเมื่อเรืองรินพบว่า ชุติมา (นิตยา ปานะถึก) แม่ของตน และ เจตน์ (พงษ์ประยูร ราชอาภัย) ผู้ เป็นพ่อ ที่ทำกิจการร้านซักแห้งที่ต่างจังหวัดกำลังเดือดร้อนเพราะมีร้านซักแห้ง แฟรนไชส์เจ้าใหญ่มาเปิดใกล้ๆ จนเป็นหนี้เป็นสินถึงขั้นต้องจำนองบ้าน ในขณะที่ เรืองยศ (เจจินตัย อันติมานนท์) ผู้เป็นพี่ชาย ที่เป็นคนเนือยๆ ไม่เก่งอะไร แต่อยากพิสูจน์ตนเองด้วยการทำร้านซักแห้งในกรุงเทพฯ ก็กำลังประสบภาวะขาดทุนหนักเพราะถูกเกสร (นภัสศรณ์ มั่นวงษ์ศิริกุล) สาวใหญ่ผู้จัดการร้านจอมโลภโกง เรืองรินจึงต้องยอมรับข้อเสนอของคุณยายชื่น ที่ยินดีจะจ่ายหนี้ให้เรืองรินซึ่งรวมๆ แล้วเป็นเงินถึง 5 ล้านบาทแลกกับการทำงาน 3 เดือน เรืองรินเกรงใจนิยา บอกกับคุณยายชื่นว่า ในอนาคตจะหาเงินก้อนนี้มาคืน แต่คุณยายชื่นยืนยันว่าไม่ต้องการ หนำซ้ำถ้าเรืองรินทำให้นลกลับมาดีเหมือนเดิมได้สำเร็จ เธอจะตบรางวัลแถมให้อีกหนึ่งล้านบาท

เรืองรินต้องโกหกเรืองยศ และ ดนุ (รัฐศาสตร์ กรสูต) แฟน หนุ่มซึ่งเป็นเพื่อนรักกับเรืองยศว่าจะไปตระเวนทำงานอาสาเป็นเวลา 3 เดือน แต่เมื่อถูกซักไซร้แบบจี้ไม่ให้หายใจจากดนุ เรืองรินก็หลุดบอกสถานที่มั่วซั่ว ไม่รู้เหนือใต้ ทำให้ดนุแคลงใจ เก็บความสงสัยในพฤติกรรมของเรืองรินไว้ในใจ

สาวใช้ไฮเทค

คืนนั้นดนุทำเซอร์ไพรส์ด้วยดอกไม้ช่อใหญ่และแหวนหมั้น แต่เรืองรินไม่ตอบรับ เพราะอยากจะเคลียร์ภาระของตนในสามเดือนนี้ให้ลุล่วงก่อน ดนุใจแป้วไป ด้วยเซ้นส์ของคนเป็นแฟนกัน ดนุรู้ได้ทันทีว่าเรืองรินมีอะไรบางอย่างที่ปิดบังตนอยู่

ก่อนเริ่มงานนิยารับเรืองรินไปช็อปปิ้งของใช้สำหรับสาวใช้คนใหม่ที่ ดรากอนมอลล์ของเธอ ระหว่างที่แยกตัวจากนิยามาเข้าห้องน้ำ ที่หน้าห้องน้ำหญิงเรืองรินมีเรื่องโต้เถียงกับนลโดยที่ไม่รู้ว่านลคือพี่ ชายของนิยา เพราะสารรูปโทรมๆ ดูไม่ได้ ทำให้เรืองรินเข้าใจว่านลเป็นพวกโรคจิต เลยคว้าเอาไม้ม็อบที่หยิบได้แถวนั้นตีเอา เมื่อเจอหน้ากันอีกทีที่บ้านรัศมิมานของนล เรืองรินถึงกับหงายหลังพูดไม่เป็นภาษาขณะถูกนลสัมภาษณ์ นลรับเรืองรินไว้เพราะหมั่นไส้ อยากจะเอาคืน วันแรกของการเป็นคนใช้ รินจึงเจอแต่งานหนักๆ เพราะนลกะเอาคืนที่โดนตีกบาลหน้าห้องน้ำ แถมยังต้องวิ่งหนีกระบองรปภ. เพราะรินตะโกนว่าตนเป็นพวกลามก โรคจิต

เรืองรินเริ่มภารกิจสาวใช้ไฮเทคหวังช่วยคุณยายชื่นที่มีบุญคุณกับเธอและครอบ ครัวอย่างเต็มที่ เริ่มต้นด้วยการแอบเข้าไปเปลี่ยนแปลงความเป็นอยู่ของนล ตั้งแต่เสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ในห้องนอน อย่างที่ไม่มีใครหน้าไหนกล้าแหยมนลมาก่อน จากที่เคยแต่งตัวด้วยโทนสีทึมหม่น วันหนึ่งนลต้องกัดฟันกรอดเพราะเปิดตู้เสื้อผ้า เจอแต่เสื้อผ้าใหม่ สีสันสดใส แบบที่เขาไม่ใส่เด็ดขาดโดยเสื้อผ้าสีทึมๆ ของเขาถูกรินโละทิ้งเกลี้ยงตู้ นลประกาศลั่นกับนายเป็ดว่าให้หาตัวการมาให้ได้ นายเป็ดจนปัญญาเพราะนิยาสั่งไว้เช่นกันว่าห้ามยุ่ง รินรุกหนักถึงขั้นเอาแว่นสายตากรอบดำหนาที่นลใส่ประจำไปทำลายเพื่อให้ นลเปลี่ยนมาใส่คอนแท็คเลนส์ซึ่งนลก็มีอยู่แล้ว นลแค้นใจที่รู้ดีว่าเป็นฝีมือใครแต่ก็ทำอะไรเรืองรินไม่ได้

จนกระทั่งนลมาฟิวส์ขาดเอาเมื่อเห็นรินกำลังเปลี่ยนรูปในกรอบที่เป็นรูปคู่ ของนลกับรมณีเป็นภาพวิวชายหาดเห็นร่มหรือเตียงผ้าใบสีฉูดฉาดสดใส ทำให้นลโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง รินก็ย้อนว่าเธอพยายามช่วยให้นลเริ่มต้นชีวิตใหม่ และลืมอดีตที่ขมขื่นซะ นลก็ย้อนเอาว่าแล้วใครบอกเธอล่ะว่าฉันอยากลืม รินพูดจี้ใจดำจนนลโกรธเกือบจะลงไม้ลงมือ ดีที่กนกวรรณกับนิยามาเห็นซะก่อน รินเกือบจะถอดใจไม่อยากช่วยนลเพราะชิงชังความไม่เป็นสุภาพบุรุษของนล แต่คืนหนึ่งรินบังเอิญเห็นนลในสภาพเศร้าหมอง น้ำตาร่วงขณะจ้องมองรูปคู่ของเขากับรมณี มีขวดเหล้าที่เกือบหมดวางอยู่ รินรู้สึกสงสารระคนเห็นใจ เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นด้านที่อ่อนไหวและอ่อนแอของนล หลังจากที่เจอมาแต่ด้านหยาบ ดุ กระโชกโฮกฮากของเขามาโดยตลอด

สาวใช้ไฮเทค

รินกลับมาฮึดสู้และรุกหนักจนปฏิบัติการภาคแรกผ่านฉลุย นลเปลี่ยนการแต่งกายภายนอกไปแทบจะเป็นคนละคน คุณยายชื่น และนิยาภูมิใจในตัวรินมาก ขณะเดียวกันกิ่งกานต์ก็ตามจับนล อย่างออกนอกหน้า ด้วยนิสัยทั้งวีน ทั้งเหวี่ยง กิ่งกานต์ต้องปะทะกับรินอยู่เนืองๆ เพียงแต่รินก็ทำให้กิ่งกานต์รู้ซึ้งว่า เธอไม่ใช่คนใช้ซื่อบื้อ ที่จะยอมให้กิ่งกานต์โขกสับอยู่แต่เพียงฝ่ายเดียว ตรงกันข้าม รินยังสวนเอากิ่งกานต์หงายเงิบไปแทบทุกครั้ง

เมื่อเห็นว่าริน เป็นคนโปรดของคุณยายชื่น ทำให้ป้าบัว คนใช้เก่าแก่จอมเฮี๊ยบ ก็ยิ่งหาทางจับผิดริน แต่รินก็ยังมี อ่อน สาวใช้ซื่อๆ เอ๋อๆ ไม่ค่อยมีความรู้ คอยช่วยเหลือ เพราะซาบซึ้งที่รินปฏิบัติต่อตนดี ไม่ดูถูก หรือโขกสับอย่างที่เธอมักจะเจอ

ภารกิจต่อไปของรินก็คือการดึงนลให้กลับไปใส่ใจกับงานบริหารห้างสรรพสินค้า ดราก้อน มอลล์ให้ได้ รินพยายามพูดดีๆ หว่านล้อม แต่ไม่ได้ผล จึงต้องใช้การปะทะคารม ดูถูกเหยียดหยามนล จนนลปรี๊ดขึ้น กลับมาทำงานเพื่อที่จะให้รินหุบปาก เลิกดูหมิ่น เยาะเย้ยตน แต่นลก็แก้เผ็ดรินด้วยการจิกรินให้ตามไปรับใช้เขาที่ห้างด้วย วันแรกของการที่ไปห้างสรรพสินค้า รินก็ดวงแตกไปเจอเอาดนุ และกลุ่มเพื่อน 3 สาวที่สนิทกันมานาน ทั้งแพรวรุ่ง (สิชา ศรีทองสุข) สาวห้าวขาลุย ตัวนำการเม้าธ์ ทิพปภา (อนันญญา โตแสงชัย) จอมเสนอไอเดีย เจ้าแห่งโปรเจกต์ และ เจนนี่ (เพชรชนก ณ ลำปาง) คุณ หนูระวัง ที่กลัวและระวังไปซะทุกอย่าง รินออกอาการอึกๆ อักๆ ตอบไม่ได้ที่ตนแต่งตัวปอนๆ แบบคนใช้ แถมหิ้วกระเป๋าที่เห็นได้ชัดว่าเป็นกระเป๋าผู้ชาย รินแสดงพิรุธหนักจนเอาไม่อยู่จึงหาจังหวะเผ่นหนีไปไม่มีปี่มีขลุ่ย ดนุปรับทุกข์กับแก๊งค์สามสาวว่าเขาชักสงสัยในพฤติกรรมของริน ลึกๆ กลัวไปถึงว่ารินจะแอบคบผู้ชายคนอื่น เนื่องจากไปพ้องกับการที่รินไม่รับหมั้นตน อ้างว่าจะเดินทางไปตระเวนทำงานทั่วประเทศ แต่ก็เห็นอยู่ในกรุงเทพฯ อยู่จะๆ สามสาวออกความ เห็นไปต่างๆ นาๆ ตามแบบฉบับของแต่ละคน ซึ่งไม่ได้ช่วยอะไรดนุเลย แต่สาวๆ ก็รับปากว่าจะช่วยดูให้ ถ้ามีอะไรจะส่งข่าวถึงกัน

กนกวรรณโล่งใจอย่างแรงที่นลดีขึ้น ไพล่ไปคิดว่าเป็นผลจากการตระเวนทำบุญสะเดาะห์เคราะห์ 99 วัดของตนตามคำแนะนำของอาจารย์คง อาจารย์คงไซโคกนกวรรณว่าจะมีอุบัติเหตุครั้งใหญ่เกิดขึ้นกับครอบครัว ถ้าไม่รีบหาคู่ให้นลรีบแต่งงานเสีย เมื่อกนกวรรณถามถึงลักษณะเนื้อคู่ที่เหมาะกับนล อาจารย์คงก็ร่ายยาวถึงลักษณะของ กิ่งกานต์ ลูกสาวของตนล้วนๆ

ทางด้านรมณีหลังจากที่เลือกทางเดินชีวิตคู่กับศักดิ์ชัย ทุกอย่างก็ลุ่มๆ ดอนๆ ยามมีเงินก็มีมากมายแต่บทจะหายเงินนั้นก็ละลายไปในพริบตา ถึงอย่างนั้นรมณีก็ยังชื่นชมศักดิ์ชัยที่หาเงินเก่ง ไม่รู้เลยว่าเงินนั้นได้มาจากการเล่นพนันล้วนๆ วันหนึ่งขณะกำลังเพลิดเพลินไปกับการช็อปปิ้งกระเป๋าใบหรูแพงระยับ แต่เมื่อรูดเครดิตการ์ดก็ต้องหน้าแตก ที่พนักงานแจ้งว่ามีวงเงินไม่พอ โทรไปเช็คก็พบว่าวงเงินถูกเบิกไปหมดแล้ว รมณีกลับไปโวยศักดิ์ชัย ศักดิ์ชัยปากหวานว่าเอาไปใช้จ่ายจำเป็น และเอาไปซื้อต่างหูให้รมณี รมณีเคลิ้มอยู่พักหนึ่งแต่ซักไปซักมาก็จับได้ว่าศักดิ์ชัยติดการพนันขั้น หนัก จากนั้นมาทั้งสองก็ทะเลาะกันอย่างคู่ชีวิตที่อยู่ร่วมกันด้วยความโลภ เมื่อเงินหมด ความรักก็จางตามไป ศักดิ์ชัยปฏิเสธที่จะหางาน หาเงินเลี้ยง หนำซ้ำยังตะโกนใส่รมณีว่า ให้หัดฉลาด ใช้นลที่ตามืดบอดหลงรักรมณีให้เป็นประโยชน์ พร้อมทั้งด่าว่ารมณีโง่ที่มีโอกาสได้แต่งงานกับนลแล้ว แทนที่จะคิดปอกลอก ดันหนีมาหาเขา รมณีตะโกนใส่ว่า ก็เพราะเธอรักศักดิ์ชัย นึกว่าศักดิ์ชัยจะซาบซึ้งกับความรักที่ตนมีให้ แต่ศักดิ์ชัยกระแทกว่าซาบซึ้งที่ตอนนี้ไม่มีกินน่ะสิ ถ้าเป็นไปได้ จะจับรมณีใส่ตะกร้าล้างน้ำ ไปเสนอไอ้โง่นลมันอีกครั้ง

รินยังคงเดินหน้าทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างตั้งใจ บ่อยครั้งที่เธอสร้างเหตุบังเอิญต่างๆ เพื่อละลายพฤติกรรมเย็นชาเป็นภูเขาน้ำแข็งของนล เช่นแกล้งตกน้ำโดยที่ตรงนั้นมีนลอยู่เพียงคนเดียว นลกระโดดลงไปช่วยตามสัญชาติญาณลูกผู้ชาย พอรู้ว่าเสียทีให้เรืองรินนลก็โกรธมาก เริ่มรู้ว่าเรืองรินมีลับลมคมใน ไม่ใช่เด็กบ้านนอกธรรมดาๆ รินได้ใจหลังจากทดสอบแล้วว่านลไม่ได้มีนิสัยแย่แต่เพียงแค่สร้างกำแพงขึ้น เพราะสูญเสียความมั่นใจที่ถูกรมณีทิ้งก็เท่านั้น และกำแพงนั้นเรืองรินก็ต้องทะลายลงให้จงได้ แต่อุปสรรคก็ไม่ได้น้อยลงเลย กิ่งกานต์ยังคงปะทะกับรินบ่อยๆ จนเก็บความแค้น จะดักตบที่หน้าร้านอาหารตามสั่งของ คิตตี้ (นิทัศน์ ธำรงค์) แต่ ดวงของรินยังแข็ง เมื่อแก๊งค์สามสาว แพรวรุ่ง ทิพปภา และเจนนี่ เห็นรินถูกรุม ก็ช่วยลุยกิ่งกานต์กระเจิงไป รินแทบช็อก กลัวเพื่อนๆ จะทำความแตก แต่โชคดีที่ตอนตบชุลมุน กิ่งกานต์เอาอาหารโปะหน้าริน ซะยับเยินจำไม่ได้ รินรีบเดินหนีเพื่อนๆ ออกมา ก่อนจะโดนจับได้

วันหนึ่งในห้างสรรพสินค้า นลบังเอิญได้เห็นรินกำลังบอกทาง และพูดคุยกับฝรั่งอย่างฉาดฉาน เป็นธรรมชาติ แต่รินยังหัวไว พอเห็นหางตาว่านลโผล่มา ก็ทำเป็นพูดภาษาฝรั่งเป็นคำมั่วๆ สำเนียงแย่ๆ แบบสเน๊กๆ ฟิชๆ แปลตรงๆ เพี้ยนๆ แบบภาษาอังกฤษซับนรก เอาตัวรอดมาได้ แต่รินก็พลาดไปจนได้ที่เผลอเข้าเฟซบุ๊ค ทักทายกับเพื่อนๆ ในกลุ่ม โดยไม่เห็นว่านลมายืนข้างหลัง นลเลยสอบปากคำรินยกใหญ่ และพบว่าเจอรุกไล่ถามหนักๆ เข้า รินก็ตอบประวัติการศึกษาของตนผิดไปจากครั้งก่อนๆ นลเริ่มสงสัยในตัวรินมากขึ้น ประกอบกับที่ กุ๋งกิ๋ง (แคทลียา พันธ์ครุฑ) เลขาจอมเป๋อของนล มีปัญหาเกี่ยวกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ก็ได้รินแก้ไขให้ปรื๊ดเดียวเสร็จ จนกุ๋งกิ๋งแอบแซวว่าเป็น สาวใช้ไฮเทค

ทางด้านเรืองยศ หลังจากถูกเกสรโกงเงินไปครั้งหนึ่งก็ยังไม่เข็ด ดันหลงคารมเกสรที่ชวนควบรวมกิจการเข้าด้วยกัน แล้วก็ถูกเกสรดูดเงินที่เรืองรินหามาใช้หนี้ให้จนเกลี้ยง รินรู้ก็ปรี๊ดแตก หลังเล่นงานเรืองยศเสร็จก็ตามไปฉะเกสร แล้วไปเจอรมณีซึ่งเป็นหลานของเกสรเข้า รินจำได้แม่นว่ารมณีคือคนในรูปคู่กับนล แต่รมณีไม่รู้ว่ารินเป็นใคร เธอวีนใส่รินที่กล่าวหาว่าน้าสาวโกงจนมีเรื่องตบตีกับริน รินซัดรมณีจนรมณีไม่มีโอกาสแม้แต่จะแตะตัวริน รมณีกรี๊ดลั่นประกาศจะเอาคืนเมื่อไรก็ตามที่เจอหน้าริน จนกระทั่งครั้งหนึ่ง นลเดินอยู่กับริน เฉียดกันไปกับรมณี เกือบจะได้เจอหน้ากันชนิดเส้นยาแดงผ่าแปด รมณีแอบมองนลห่างๆ แปลกใจรินที่หน้าเหมือนคนที่เคยมีเรื่องกันที่ร้านเกสร แต่ทำไมแต่งตัวเป็นสาวใช้ราวกับเป็นคนละคนในวันมีเรื่อง ที่น่าประหลาดใจไปกว่านั้นคือสาวใช้อะไรกล้าพูดกล้าคุยกับนลอย่างสนิทสนม

ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเรืองรินกับนลจะดูสนิทกันขึ้น แต่ก็ยังมีหลายครั้งที่กิ่งกานต์โดนรินลบเหลี่ยมต่อหน้า จึงกลั่นแกล้งคืนด้วยกลเม็ดตื้นๆ โดยเอานาฬิกาข้อมือเรือนหรูของตนไปซ่อนใต้ที่นอนของริน แล้วใส่ร้ายว่ารินเป็นหัวขโมย ทำให้รินถูกนลตำหนิอย่างแรง แต่รินก็ด่าย้อนเอา ว่าถ้าขืนเชื่อลูกไม้ตื้นๆ อย่างงี้ ก็คงบริหารห้างสรรพสินค้าไม่เจริญ นลโกรธรินมาก ทะเลาะกันใหญ่โต ดีที่นิยามาช่วยห้ามไว้ได้

รินเคืองกับนล พอดนุโทรมานัดเจอจึงแอบออกไปทันที ดนุพยายามสืบถามว่ารินกำลังทำอะไรอยู่ ถึงได้ดูลับๆ ล่อๆ และเมื่อแยกย้ายกันกลับ ดนุแอบสะกดรอยตามรินไปจนถึงบ้านนล พอดีกับที่นลออกมาเห็นแล้วรู้สึกขัดใจ นลประหลาดใจกับความรู้สึกตัวเองที่ดันไปหึงหวงสาวใช้ที่มีแฟนมาส่ง พอรินก้าวเข้าบ้าน นลจึงปรากฏตัวขึ้นหาเรื่อง รินยังกรุ่นๆ เรื่องที่นลเข้าข้างกิ่งกานต์จึงพูดยั่วโทสะจนนล
เผลอใจจุมพิตริมฝีปากริน นิยาเข้ามาเห็นก็ช็อคนะจังงังไป นลกับรินรีบผละออกจากกัน แต่รอยจุมพิตนั้น ก็ทำให้สาวใช้อย่างรินเผลอให้ความรู้สึกดีๆ และมีใจให้กับเจ้านายอย่างนลไปซะแล้ว

ดนุนัดนิยามาทานข้าวหลังจากแน่ใจว่ารินไปเป็นสาวใช้ที่บ้านนิยา นิยาดีใจมาก เพราะแอบมีใจให้ดนุอยู่ แต่ไม่กล้าคิดเพราะเป็นแฟนเพื่อนสนิท แถมเมื่อเห็นรินจุมพิตกับนล นิยาจึงกล้ารับนัด แต่ปรากฏว่าดนุเอาแต่สอบถามคาดคั้น ถึงการที่รินปลอมตัวเป็นคนใช้อยู่ในบ้านของนิยา นิยาเสียงแข็งไม่ตอบ อ้างว่าเป็นกิจธุระของคุณยายตน ตนเป็นเด็กไม่อาจแพร่งพรายธุระของคุณยายได้ ดนุจึงบอกว่า ดีล่ะ ถ้างั้นเขาจะสืบหาความจริงเอง นิยาชักแม่น้ำทั้งห้ามาห้ามดนุก็ไม่ฟัง

วันต่อมา รินแทบช็อค ที่เห็นดนุเดินเข้ามาในบ้าน นลสั่งให้รินคอยดูแลน้ำท่าให้กับแขกคนนี้ที่อ้างว่าจะมาพูดคุยเรื่องเหมา เช่าพื้นที่ค้าขายในดราก้อนมอลล์ นลจับสังเกตเห็นว่ารินดูแปลกๆ ลนๆ เทน้ำหกน้ำล้นมั่วไปหมด คืนนั้นรินต้องรีบออกไปชี้แจงความจริงกับดนุและแก๊งค์สามสาว แพรวรุ่ง ทิพปภา และเจนนี่

ยิ่งนานวัน ความสัมพันธ์ของนล กับริน ก็พัฒนาขึ้น ในขณะที่ กนกวรรณ เริ่มขัดหูขัดตาอย่างแรง หนำซ้ำยังได้ยินเข้าหูบ่อยๆ จากกิ่งกานต์ว่าลูกชายของตนกำลังให้ความสนิทสนมกับริน จนเกินนายกับบ่าว กนกวรรณกับกิ่งกานต์ และป้าบัวจึงต้องคอยร่วมมือกัน ขัดขวางกลั่นแกล้งริน โดยมีนิยากับคุณยายชื่น และอ่อน เป็นฝ่ายปกป้องริน

ในการเจอกันครั้งหนึ่งของดนุ กับริน ดนุทวงถามเรื่องการแต่งงาน รินปัด บ่ายเบี่ยงที่จะตอบ และเมื่อดนุพยายามกอด ถูกเนื้อต้องตัวกลับทำให้รินรู้สึกว่า ความรู้สึกรักที่เคยมีต่อดนุได้จืดจางลงไปแล้ว รินถึงกับปรึกษาเรื่องนี้กับนิยา ที่พูดปลอบรินว่าอย่าคิดมากไป ทั้งที่ในใจ แทบจะร้องตะโกนออกมาด้วยความดีใจ เพราะนิยาหลงรักในตัวดนุมานาน จนอดคิดไม่ได้ ว่าอยากจะเชียร์รินให้เลิกกับดนุ แล้วมารักกับ นล พี่ชายตนซะให้รู้แล้วรู้รอด
www.ch7.com

การเลือกสีเสื้อผ้าตามวันเกิด

การ เลือกสีเสื้อผ้าตามวันเกิด

การเลือกเสื้อผ้าในการแต่งตัวมีผลต่อ ผู้ใส่ได้มากจริงๆ เลยนะคะ นอกจากรูปแบบความทันสมัยของเสื้อผ้า และเส้นใยที่นุ่มสวมใส่สบายแล้ว สีสันของเสื้อผ้าก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่เราไม่ควรมองข้าม เพราะศาสตร์ ในการเลือกใส่เสื้อผ้าสีสันต่างๆ ตามวันเกิดที่มีมาแต่โบราณกว่า 700 ปี ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยการ ใช้ตำรามหาทักศา ซึ่ง อ. คฑา ชินบัญชร ได้รวบรวมแล้วนำมาบอกต่ออีกที นอกจากความเป็นสิริมงคลแล้ว ยังช่วยให้เรามีความมั่นใจในการดำเนินชีวิตประจำวันอย่างมีความสุขได้อีก ด้วยค่ะ...


ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

อาจจะใช้สีแดง สีส้ม หรือสีอื่นๆ มาประกอบ เพื่อให้เกิดความมีสิริมงคล สำหรับชีวิต ไม่ใช่เฉพาะสีประจำวันอย่างเดียว ควรจะเลือกสวมใส่เสื้อผ้า ด้วยโทนสีแดง ทั้งแดงสด แดงเข้ม แดงม่าเมี่ยว รวมทั้งชมพู ส้ม หรือแสด จะช่วยให้คนเกิดวันนี้รู้สึกสดชื่น ส่วนสีทอง ครีม และเขียว จะให้ความเป็น มงคลในเรื่องของโชคลาภ

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

ผู้ที่เกิดวันนี้ อ.คฑาบอกว่า มีนิสัยอ่อนโยน อ่อนหวาน นุ่มนวล แต่ขี้ใจน้อย
ไปสักนิด พยายามอย่าคิดมากนัก เพราะอาจทำให้มีเรื่องหงุดหงิดไม่สบาย
ใจ แต่ก็เป็นคนดีมีน้ำใจ และมีเสน่ห์ในตัวเองเป็นพิเศษ สีเสื้อผ้าที่ควรใส่คือ
เหลือง ทอง ไข่ไก่ ครีม ฟ้า น้ำเงิน เพราะจะมีผู้ใหญ่ให้ความช่วยเหลือสนับ
สนุน สีเขียว หมายถึงการเลื่อนตำแหน่ง ความขยันขันแข็ง หรือความกระตือ
รือร้นในการทำงาน ส่วนสีม่วง จะหมายถึง โชคลาภ สรุปแล้วสีที่เหมาะสำ
หรับคนเกิดวันจันทร์มากที่สุดก็คือ เหลือง เหลืองทอง ไข่ไก่ หรือสีที่ออก
แนวเอิร์ธโทนนั่นเองค่ะ

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

เป็นคนที่มีจิตใจเข้มแข็ง โดดเดี่ยว ตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง เป็นคนตรง
ไปตรงมา มีความยุติธรรมเป็นที่สุด ที่สำคัญคือเป็นคนรักเดียวใจเดียว และ
รักครอบครัวเป็นที่สุด ผู้ที่เกิดวันนี้ควรเลือกใส่เสื้อผ้าสีชมพู แดง ส้ม เขียว
เป็นพิเศษ เพราะเป็นสีมงคล และจะทำให้คนเกิดวันอังคารดูอ่อนหวาน
นุ่มนวล และดูเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้สีชมพู และแดง ยัง
หมายถึงโชคลาภอีกด้วย


ผู้ที่เกิดวันพุธ

เป็นคนที่มีเสน่ห์ และมีไหวพริบปฏิภาณ คำพูดคำจาของผู้ที่เกิดวันพุธนั้นถือว่ามีเสน่ห์ร้ายเหลือทีเดียวค่ะ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ใครได้ฟังรับรองว่าต้องเคลิบเคลิ้มตามไปด้วยแน่ สีเขียวนอกจากจะเป็นสีประจำวันแล้ว ก็ยังเป็นสีแห่งโชคลาภของคนวันพุธอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น เขียวอ่อน เขียวแก่ เขียวใบไม้ รวมทั้งสีธรรมชาติ ของสายลมและแสงแดด ก็ถือเป็นสีแห่งสิริมงคล ที่จะช่วยเสริมสร้าง
พลังชีวิตให้กับผู้ที่เกิดวันพุธได้เป็นอย่างดี

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

คนที่เกิดวันพฤหัสบดี เขาบอกว่าเป็นผู้ที่มีคุณธรรมสูง ซื่อสัตย์ รักเดียวใจเดียว ที่สำคัญคือมีความเป็นผู้นำ เป็นผู้ที่คิดไปถึงอนาคต วางแผนไกล และมีเสน่ห์น่าค้นหา สีส้ม สีทอง สีประกายต่างๆ อย่างบรอนซ์ทอง บรอนซ์เงิน รวมถึงสีที่เกี่ยวกับเอิร์ธโทน ก็ถือว่าใช้ได้ อีกทั้งสีน้ำตาลอ่อน และน้ำตาลแก่ ก็เป็นมงคลกับผู้ที่
เกิดวันนี้ เสื้อผ้าที่เลือกใส่ควรเป็นสีส้ม แสด ทอง เพราะเป็นที่จะนำเรื่องดีๆ มาสู่ตัวคุณได้ค่ะ

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นคนที่มีความสุข สดชื่น รื่นรมย์ สดใสตลอดเวลา มองโลกในแง่ดี และมีอารมณ์ขัน เป็นเสน่ห์อย่างดีให้ ทั้งกับเพศตรงข้าม และเพศเดียว
กัน ใครๆ ก็อยากทำความรู้จักกับคนเกิดวันศุกร์ทั้งนั้นแหละค่ะ ถึงจะมองโลกในแง่ดี และคิดการณ์ไกล แต่ก็ต้องระวังกับอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงง่ายไว้บ้างนะคะ สีที่ให้ความเป็นมงคลของคนเกิดวันนี้คือ สีฟ้าทุกแบบ สีน้ำเงินเข้มสามารถเลือกสวมใส่เสื้อผ้าได้ทุกสี แต่สีที่นำโชคลาภได้ดีคือ สีชมพู ฟ้า น้ำเงิน แดง เหลืองอ่อน ขาว ครีม และสีทอง

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

เป็นคนที่มีความมุ่งมั่น และเชื่อมั่นในตัวเองสูง ไม่ค่อยยอมใคร มีความขี้ใจน้อย ต้องลดทิฐิลงบ้าง เนื่องจากเป็นคนตรงไปตรงมา เสน่ห์ของคนที่เกิดวันเสาร์ คือ เป็นผู้ที่มีความลึกลับ น่าค้นหา และมีความเป็นตัวของตัวเองสูง ถ้าอยากให้ผู้ที่เกิดวันนี้มีเสน่ห์ ก็ต้องเลือกใส่เสื้อผ้าสีม่วง ทั้งม่วงอ่อน ม่วงเม็ดมะปราง สีฟ้า สีน้ำเงินเข้ม หรือชมพู จะช่วยส่งเสริมให้คนวันเสาร์
ดูมีเสน่ห์ น่ารัก อ่อนหวานและนุ่มนวลขึ้น อีกทั้งทำให้มีมนตรี หรือผู้ใหญ่ให้การสนับสนุนอีกด้วย
www.horadaily.com/taytak_36.php